เมนู

10. อุเทนสูตร



ว่าด้วยหญิง 500 ถูกเผา



[157] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้พระนคร
โกสัมพี ก็สมัยนั้นแล เมื่อพระเจ้าอุเทนเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ภาย
ในพระราชวังถูกไฟไหม้ หญิง 500 มีพระนางสามาวดีเป็นประมุขทำกาละ
ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า ภิกษุมากด้วยกันนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้า
ไปบิณฑบาตยังพระนครโกสัมพี ครั้นเที่ยวบิณฑบาตในพระนครโกสัมพี
กลับจากบิณฑบาตภายหลังภัต เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส เมื่อพระเจ้า
อุเทนเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ภายในพระราชวังถูกไฟไหม้ หญิง
500 มีพระนางสามาวดีเป็นประมุขทำกาละ คติแห่งอุบาสิกาเหล่านั้นเป็น
อย่างไร ภพหน้าเป็นอย่างไร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย บรรดาอุบาสิกาเหล่านั้น อุบาสิกาที่เป็นพระโสดาบันมีอยู่ เป็น
พระสกทาคามินีมีอยู่ เป็นพระอนาคามินีมีอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสิกา
ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ไม่ไร้ผลทำกาละ.
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
สัตวโลกมีโมหะเป็นเครื่องผูกพัน ย่อมปรากฏ
เหมือนสมบูรณ์ด้วยเหตุ คนพาลมีอุปธิเป็นเครื่อง
ผูกพัน ถูกความมืดหุ้มห่อไว้ ย่อมปรากฏเหมือนว่า

เที่ยงยั่งยืน กิเลสเครื่องกังวลย่อมไม่มีแก่ผู้พิจารณา
เห็นอยู่.

จบอุเทนสูตรที่ 10

จบจูฬวรรคที่ 7


อรรถกถาอุเทนสูตร



อุเทนสูตรที่ 10

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า รญฺโญ อุเทนสฺส ได้แก่ พระราชาพระนามว่า อุเทน ซึ่งเขา
เรียกกันว่าเจ้าวัชชีก็มี. บทว่า อุยฺยานคตสฺส ได้แก่ เสด็จไปอุทยาน เพื่อ
สำราญในพระอุทยาน. จริงอยู่ บทว่า อุเทนสฺส นี้ เป็นฉัฏฐีวิภัตติ ใช้
ในอรรถอนาทร. ก็บทว่า อุเทนสฺสน เป็นฉัฏฐีวิภัตติ ใช้ในสามีสัมพันธะ
ไม่มุ่งถึงบทว่า อนฺเตปุรํ. บทว่า กาลกตานิ ได้เเก่ ถูกไฟไหม้ตายแล้ว.
ในบทว่า สามาวตีปมุขานิ นี้ มีคำถามสอดเข้ามาว่า ก็พระนางสามาวดีนี้
คือใครและทำไมจึงถูกไฟไหม้ ? ข้าพเจ้าจะเฉลย ธิดาของเศรษฐีในเมือง
ภัททวดี อันโฆสกเศรษฐีตั้งไว้ในตำแหน่งธิดา มีหญิง 500 เป็นบริวาร
เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าอุเทน เป็นพระอริยสาวิกามากไปด้วยเมตตา-
วิหารธรรม ทรงพระนามว่าสามาวดี. ในที่นี้ มีความสังเขปเพียงเท่านี้
เมื่อว่าโดยพิสดาร พึงทราบอุปปัตติกถาของพระนางสามาวดีตั้งแต่ต้น
แต่โดยนัยดังกล่าวในเรื่องพระธรรมบท. นางมาตัณฑิยาธิดาของมาคัณฑิย-
พราหมณ์สดับคาถานี้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสคงแก่บิดามารดาของ
ตนว่า